2552/03/23

(My) Return to Innocence (contemporary dance solo)

เมื่อได้ฟังเพลงนี้ของ enigma โดยบังเอิญ
ก็เกิดมีพลังอะไรบางอย่างคุกรุ่นอยู่ภายใน
จนออกมาเป็นงาน Choreography ชิ้นแรกนี้ขึ้น

ด้วยความที่ห่างหายจากการฝึกซ้อมไปอย่างนาน
ทำให้การเตรียมตัวในระยะเวลาเพียง 2 เดือนนี้ ยาก...แสนยาก
จึงมีบันทึกสั้นๆ ถึง "ใบสั่ง" ตัวเองเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจ
ในตลอดระยะเวลาช่วง 2 เดือนนี้



First, find the connection within your body and mind.
Second, feel the energy from the inner muscles and control it with your mind.
Third, never let your desire overcome your discipline.
Forth, care nothing!!!
Fifth, dance it and then be joyfully น่วม.
Sixth, breath and feel the energy flowing from your body to your mind and flying up to the higher beings.




อาจจะไม่ดีได้เท่าที่หวังไว้
แต่มันก็ดีที่สุด
เท่าที่เราจะทำได้ในเวลานั้นแล้ว
ก็เหมือนในเพลงเพลงนั้นที่เราเคยร้องเอาไว้


Yet, I am not the best, but I'm doing my best.









ขอบคุณมูลนิธิ Friends of the Arts
ที่ให้โอกาสขึ้นแสดงบนเวที International Dance Festival
ณ สวนเบญจสิริ เมื่อวันที่ 14-15 มีนาคม 2552

ขอบคุณพ่อกับแม่
ที่ทั้งส่งเสียให้เรียน ทั้งคอยเป็นกำลังใจ
ทั้งวิ่งวุ่น คอยตามถ่ายวิดีโอให้
ตั้งแต่เล็กจนโต

ขอบคุณครูติ๊บ พี่เอ๋
รวมไปถึงพี่ศิริ พี่อร
Tang Laoshi, Stella Lousi,
และ John แห่ง HKAPA
ที่ให้ส่วนผสมทั้งหมดแก่ตัวเรา

ขอบคุณพี่ตุ่ย และฟ้าใส
ที่เป็นกำลังใจมาโดยตลอด

ขอบคุณพี่ศิริ สำหรับคำแนะนำ
ในวันที่ไปซ้อมกับเวที
ในเวลาที่เราต้องการ "ตาครู" มากที่สุด

2552/03/20

How Dare??!!

ถ้าคิดจะกักขังฉันไว้
ในเงื่อนไขนานาประการ
แล้วเธอคืนชีวิตให้ฉันมาทำไม
ได้แต่ถามตัวเองเงียบๆ ในใจ

หนึ่งเดือนที่ผ่านมา
รู้สึกได้ถึงพลังที่กลับฟื้นอีกครั้ง
เราปลุกบางสิ่งบางอย่างที่แห้งเหี่ยวขึ้นมาใหม่
จนรู้สึกได้ถึงชีวิตที่เริงร่ายจากภายใน

แล้วต่อจากนี้ล่ะ
จะจัดการกับมันอย่างไรต่อไป

เก็บมันกลับลงไป
ให้อยู่เฉยๆ อย่างเดิมเหรอ
แต่มันคงไม่ยอมอยู่เฉยๆ อีกแล้ว
มันไม่ยอมนั่งเฉยๆ
มันไม่ยอมสูญสลายไป

มันกรีดร้องอยู่ข้างในว่า
หากไม่ใช่อิสระแก่ฉัน
เธอปลุกฉันกลับขึ้นมาทำไม

2552/03/16

I've got it back, but... what's next?

ฝรั่งคนนั้นที่เราไม่ได้ถามชื่อ
รู้เพียงว่าเป็น press ชาวออสเตรเลีย

“ฉันเห็นเธอเต้น
แล้วฉันก็เห็นอะไรบางอย่างในตัวเธอ
ที่นี่แคบเกินไป
และมันจะกดเธอไปเรื่อยๆ
เธอจะเติบโตต่อไปไม่ได้
คนอย่างทักษิณ สนธิ หรืออภิสิทธิ์
ไม่ได้ต้องการคนอย่างเธอ
เธอมีอะไรในตัว มากกว่าใครหลายๆ คน
แล้วเธอจะก้าวขึ้นไปเป็นใครสักคนในโลกใบนี้
ลองคิดดู เธอเข้าใจทึ่ฉันพูดใช่ไหม”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก นี่ไม่ใช่คนแรก
Gramme ชาวออสเตรเลียที่ไปอยู่ที่ฮ่องกง
ก็บอกเราอีกเหมือนกันว่า
เราจะเป็น someone เมื่อเราจบปี 3
แต่เราก็หนีมันมา
หนี HKAPA

Ismael Ivo
ชาวอะไรสักอย่าง จำไม่ได้
แต่จำได้แม่นถึงสิ่งที่เขาบอกเรา
You are going to be one of the best
…in the world.
Enjoy your artistic life.

มองตาตัวเองในกระจก
แล้วพยายามอยู่ในโลกความเป็นจริง
เราตอบตัวเองไม่ได้ว่าเราต้องการอะไร
เส้นทางไหนที่จะพาเรา
ไปสู่การใช้ชีวิตที่แท้จริง

ความสุขจากการอยู่บนเวที
มันคือ the Return to Innocence
หรือว่ามันคือแค่ ... การพี้ยา

ไม่ต้องถามใครหรอก
แม้แต่ต้นไม้ต้นนั้นยังไม่ตอบเราเลย

กับอีกสิ่งเล็กๆ
ที่ผู้หญิงอ้วนคนนั้นบอกเรา
คุณเต้นได้จับใจพี่มาก

มันไม่ใช่ว่าเราพอใจที่ได้รับคำชม
แต่มันคือการได้รู้ว่า
เรามีช่องทางการสื่อสาร
เหมือนที่ อ.มานิตย์ พูด
ถึงเหตุผลที่เขาเลือกที่จะถ่ายรูป
นั่นก็คือ มันสื่อสารได้
มันบอกสิ่งที่อยู่ลึกๆ ในใจเราได้

มันพอแล้ว เรารู้สึกว่าชีวิตเราเต็มแล้ว
ความมั่นใจที่สูญหายไปหลายปี
ความพิเศษของชีวิตที่เราตามหา
แท้จริงแล้วมันไม่ได้ไปไหน
มันอยู่ในนี้ มันอยู่กับเรามาตลอด

แล้วทำไม
ทำไมเราถึงไม่ก้าวออกไปเสียที
เรากลัวอะไรอยู่เหรอ
อะไรล่ะ ที่ทำให้เราไม่ไป

2552/03/14

The Return to Innocence

เมื่อบทเพลงไหลเข้าสู่จิตใจ
พันธนาการจึงคลายออก
เมื่อนั้นจึงได้ยินเสียงจากภายใน
แม้กระซิบเพียงแผ่วเบา
แต่ไม่เคยหายไป
จึงกลายเป็นการสอดประสานกันของ
ท่วงทำนองแห่งลีลา
และความรู้สึกแห่งบทกวี

คือการเคลื่อนไหวไป
ตามจังหวะที่เร่งเร้าจากภายใน

คือการมุ่งหน้าสู่ความคุ้นเคย
อันแปลกหน้า

คือการเดินทางกลับสู่
ความไม่เดียงสา

คือการตามหา
ส่วนประกอบเดิมแห่งชีวิต

คือการเงี่ยฟังสรรพสำเนียง
แห่งสรรพสิ่ง

คือการรับรู้รับฟัง
เสียงเต้นของหัวใจ

…เสียงเพลงปลุกเร้า
หัวใจเต้นเป็นจังหวะ
รับรู้ รับฟังรับรสท่วงทำนอง

จมดิ่ง
กลับยิ่งไพศาล
นิ่งงัน
กลับยิ่งเคลื่อนไหว
รับรู้ รับฟัง
พลังที่กลับฟื้น

ยิ่งกว้าง
ยิ่งลึก
ยิ่งเปิด
ยิ่งได้ยิน
รับรู้ รับฟัง
จึงร่ายรำจากภายใน…

วันนี้เป็นครั้งแรก
ที่เราได้เอา piece สั้นๆ ของเรา
เพียง 4 นาที
ขึ้นเวที...

กับการ Choreograph ครั้งแรกในชีวิต
เราทั้งมั่นใจ และไม่มั่นใจ
ทั้งประหม่า ทั้งฮึกเหิม
ทั้งรู้สึกเหงา ทั้งสบายอิสระ
สับสนปนเปไปด้วยความกลัว
และกล้า...

ตอนนี้เหนื่อย เหนื่อยแบบหัวจะทิ่ม
แต่ก็ต้องเขียน เพราะรู้สึกว่าต้องเขียน
ชุดแสดงต้องเย็บอีกหน่อย แต่ถ้าไม่เย็บก็ไม่เป็นไรมั้ง
พรุ่งนี้ต้องพกผ้าปูไปด้วย น่าจะดี แต่ตอนนี้ขี้เกียจหา

กลัวชิบเป๋ง แต่เรารู้ว่านั่นคือดีที่สุดของเราแล้ว
จำได้ไหมที่พี่เตี้ยสอนว่า
จุดหมายปลายทางจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ
ถ้าตลอดทาง เราได้เต็มที่กับมันแล้ว
ก็ใครว่าเราไม่เต็มที่ล่ะ

นั่นล่ะ คือการแสดงของเรา
นั่นล่ะ คือตัวของเราในขณะนี้
The Return to Innocence

ความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
ลมหายใจที่เคลื่อนไหวเป็นวงกลมเดียวกับต้นไม้
นั่นล่ะ คือที่สุดของการเคลื่อนไหว
สวน เราเต้นในสวน...
เราผสานพลังของเราเข้าไว้กับต้นไม้ทุกต้น
ใบไม้ทุกใบ ผืนดินทุกเม็ด
ผืนน้ำทุกหยด...

เราคือหนึ่งเดียวกับจักรวาล เหมือนในตอนเริ่มต้น
แค่เราเริ่มเต้นเท่านั้น

The Return to Innocence

The dance brings me back,
again and again.
See, in the sky,
it is accepted - my spirit.
See, it flies into the sky.

See.
See it's dancing.
See.
Isn't me?

I'm dancing.