2550/11/25

ศิลปะที่อันไร้ค่าในความรู้สึก

เป็นอีกครั้งที่รู้สึกว่า
เพียงแค่การเต้นนั้น
มันไม่ตอบโจทย์ชีวิตเพียงพอ
เมื่องานประกวดดัชชี่ที่ผ่านมาเราแทบทนไม่ได้
กับการที่พบว่า สิ่งที่ศิลปะทำได้
มันก็เพียงแค่รับใช้โจทย์ตื้นๆ
ที่ลัทธิทุนนิยมกำหนดขึ้น
รู้สึกเพียงว่า...มันไร้ปัญญา...
และไม่ได้ให้อะไรกับชีวิตเลย

วันนี้มีธุระแถวๆสุขุมวิท
เราเห็นเด็กญี่ปุ่นทำผมมวย
ดูแล้วรู้เลยว่าจะไปเรียนบัลเล่ต์
รู้สึกขึ้นมาตะหงิดๆว่า
ทำไมศิลปะบางประเภทถึงต้องถูกผูกขาด
ทำไมมันถึงต้องมี "ภาพลักษณ์"
ของคนเรียนบัลเล่ต์ด้วย

และสิ่งที่เราต้องทำ
ก็รู้สึกว่ามันขัดแย้งขึ้นเรื่อยๆ
เรากำลังหลอกตัวเองอยู่
สิ่งที่เราทำกับสิ่งที่เราเชื่อมันสวนทาง
เราจะหลอกเด็กและผู้ปกครองไปได้อีกนานเท่าไหร่
จิตวิญญาณภายในของเรามันเหมือนอยู่ในอีกโลก
เราไม่สามารถเปิดใจสื่อสารกับเด็กๆได้
พอๆกับที่เราไม่สามารถยอมรับตัวเองได้
...มันขัดแย้ง...

เป็นอีกครั้งที่เราหาทางเลือกใหม่ให้กับการเต้น
Dance Therapy ผุดเข้ามาในหัวอีกครั้ง
เราไม่อยากจะใช้การเต้นเป็นเครื่องมือ
เอาไว้ให้คนกลุ่มหนึ่งปู้ยี่ปู้ยำโลก
พรสวรรค์และความสนใจที่พิเศษ
ย่อมมากับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เสมอ
Danial บอกว่า Dance world needs you.
แต่เราบอกกับตัวเองว่า
Actually, the whole world needs me.

เมื่อเรามองไปยังลำแสงจ้า
เราจะตาพร่าไม่เห็นอะไรเลย
แต่เมื่อเรามองไปยังความสว่าง
ที่ลำแสงนั้นก่อเกื้อให้เกิดขึ้น
เราจะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจน

การเพ่งมองและรุดก้าวไปยังความฝันเจิดจ้านั้น
สายตาและความรู้สึกพร่ามัวจะพร่ามัว
จนพลัดหลง และทำร้ายผู้คนบนเส้นทาง
แต่การมุ่งหน้าไปยังลำแสงจ้า
โดยมองไปยังความสว่างไสวที่เกิดจากลำแสงนั้น
เส้นทางนั้นจะชัดเจน และมีเป้าหมายที่มั่นคง

การเต้นเพื่อตัวเอง ชีวิตคงแห้งแล้งเกินไป
เราเชื่อว่าเส้นทางของ Dance Therapy
จะทำให้ชีวิตของเรามีความหมายมากกว่าที่เป็นอยู่
แต่เราจะไหวไหมหนอ