2550/10/25

อารัมภบท...แค่อยากเป็นศิลปิน

"ความเป็นเด็กทำให้หัวใจเราสดใหม่
และคงมีแต่ความฝันกับความหวังเท่านั้น
ที่คอยหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของความเป็นเด็กนั้นเอาไว้ได้"

ชีวิตของนักเต้นที่ไม่อยากเป็นเพียงนักเต้น...ง่ายนักหรือ
เมื่อนักเรียนบัลเล่ต์คนหนึ่งไม่ต้องการเป็นเพียง dancer
หากดิ้นรนไขว่คว้าจะดำรงสถานะของ "ศิลปิน"
มันต้องทุ่มเททั้งจิตใจ และแลกด้วยชีวิตทั้งหมด
เกินไปหรือเปล่าที่พูดอย่างนี้
ไม่เลย เพราะทั้งหมดที่ทำลงไปนั้น
มันคือทั้งหยาดเหงื่อ และน้ำตา

ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว
ในยามที่ความฝันสุกงอมเต็มที่
และผลิใบออกมาในความเป็นจริง
ฉันจากบ้านออกบินไปตามความฝัน
จากบ้านเกิด ไปออสเตรเลีย กลับมาฮ่องกง
แล้วกลับมานั่งเลียแผลอยู่ที่หน้าต่างห้องนอนตัวเอง
สุดท้ายได้เพียงฝันถึงวันเก่าๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วไฟก็เริ่มมอดลงทีละน้อยๆ
ผู้คนที่คุ้นหน้าที่เคยเป็นแรงผลักดันก็ห่างหาย
ชีวิตที่ไร้ซึ่งแรงบันดาลใจเป็นอย่างนี้นี่เอง
มันช่างว่างเปล่าอย่างน่าใจหาย
ฉันกำลังตะกายขึ้นมาจากหลุมนั้นอยู่
ความฝันฉันยังไม่ตาย หัวใจฉันยังคงเต้น
ยัง ยังฝังความฝันของฉันตอนนี้ไม่ได้
ใครก็ได้ช่วยฉุดฉันขึ้นไปจากหลุมนี่ที
อนิจจา..เหลียวหารอบกายกลับไม่เห็นใครเลย

"ได้เพียงปล่อยให้แต่ละวันผ่านไปคล้ายกับความฝัน
ฝันไปว่า ฉันได้ไปเต้นรำบนหลังคา
แต่พอตื่นขึ้นมา ฉันก็ยังตื่นขึ้นมาบนเตียงนอน"

สมุดไดอารี่เล่มเก่าๆ...เปิดอ่านทีไรก็ได้แต่ร้องไห้
สมเพชตัวเองเมื่อได้เห็นความฝันอันสดสวย
แล้วก็ได้แต่มองสิ่งที่เป็นไปในวันนี้ ห่างไกลออกไปทุกที
ฉันเห็นความภาคภูมิ ความเชื่อมั่น ความรักตัวเอง
แล้วสิ่งที่ฉันเป็นในวันนี้ มันคืออะไร
ฉันเห็นภาพตัวเองวิ่งตามหาอะไรบางอย่างมาตลอด
แล้ววันนี้ แต่ละเส้นทางที่ฉันเลือกเดิน มันวนกลับมาที่เดิม
ที่ผ่านมาทั้งหมดนั่นคืออะไร...ฉันเฝ้าถามตัวเอง
ทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตาที่เสียไป...มันหายไปไหนหมด
มันหายไปเอง หรือว่าเรากันแน่ที่ทำหล่นหาย

ฉันแค่อยากจะเริ่มต้นเขียนอะไรสักอย่างเกี่ยวกับความฝันของฉัน
อยากเร่งเชื้อไฟที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดให้ลุกโชนขึ้นมาใหม่
เพราะเชื่อว่า ไม่ว่าภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ความเป็นเด็กในตัวเรา ความใฝ่ฝันข้างในนั้นมันยังคงเหมือนเดิม
แต่อาจเหลือเวลาอีกเพียงไม่นาน
ก่อนที่มันจะเลือนหายไปอีกครั้ง



...I'll keep going en pointe and I'll die with my leg on the barre...

ไม่มีความคิดเห็น: